นายกฯ เบรก “กฤษฎา” ให้เวลาคิด 1 คืน คาดเหตุผลลาออก รมช.คลัง เรื่องแบ่งงาน

วันอาทิตย์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2567

ดู : 234

นายกฯ เบรก “กฤษฎา” ให้เวลาคิด 1 คืน คาดเหตุผลลาออก รมช.คลัง เรื่องแบ่งงาน

“นายกฯ เศรษฐา” ยกหูเบรก “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” บอก ให้เวลาคิด 1 คืน รอคำตอบวันที่ 9 พ.ค. คาดเหตุผลลาออก อาจเป็นเรื่องแบ่งงาน ชี้ ยังมีงานและโปรเจกต์ให้ทำอีกเยอะ ส่วนหลังปรับ ครม. แล้วมีคนลาออก เชื่อ ไม่กระทบการทำงาน

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ก่อนที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ยื่นหนังสือลาออกตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า มีผู้สื่อข่าวส่งข่าวมา ตนจึงได้โทรศัพท์หา นายกฤษฎา ท่านก็บอกว่าใบลาออกกำลังมา ซึ่งตนบอกว่าให้คิดก่อนคืนหนึ่ง เดี๋ยวค่อยว่ากันใหม่ 

ผู้สื่อข่าวถามต่อ นายกรัฐมนตรีระงับใบลาออกไว้ก่อนใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า ตนระงับไว้ก่อน เมื่อถามอีกว่าตกใจหรือไม่ที่ นายกฤษฎา ลาออก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องพรรค์นี้เป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นมากกว่า ซึ่งต้องพูดคุยกัน ตนบอกว่าหากมีความไม่สบายใจในเรื่องการแบ่งงาน ก็ยังมีโปรเจกต์อีกเยอะในกระทรวงการคลัง ยังทำงานร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรีได้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็พร้อมมอบหมายงานเพิ่มเติมให้ จึงขอให้ท่านคิดดูอีกคืนหนึ่งก่อน 

ส่วนคำถามว่า นายกฤษฎา ได้แจ้งเหตุผลหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอบว่า “คงเป็นเรื่องแบ่งงานมั้งครับ” เมื่อถามต่อไปว่า นายกฤษฎา ที่พูดคุยกันตอบกลับมาอย่างไร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า “ท่านก็หัวเราะ ผมก็บอกว่าให้คิดดูก่อนแล้วกัน ผมยังไม่รับ และท่านก็เป็นน้องผม รู้จักกันมานาน ก็บอกไปแบบนั้น” เมื่อถามย้ำว่า เป็นการเบรกหนังสือลาออกไว้ก่อนใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ใช่ครับ ชัดเจนครับ”

ขณะที่คำถามว่าได้คุยกับ นายพิชัย หรือไม่ว่าเป็นเรื่องการแบ่งงาน นายกรัฐมนตรี เผยว่า นายพิชัย พยายามโทรศัพท์หา นายกฤษฎา แต่ท่านไม่ยอมรับสาย ตนจึงโทรศัพท์หาแทน พอดีเลขาฯ ของ นายกฤษฎา อยู่ตรงนี้พอดีจึงให้โทรศัพท์ไป เมื่อถามว่าการเบรกของนายกรัฐมนตรี แสดงว่าพร้อมที่จะแบ่งงานให้ใหม่ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวในเรื่องนี้ว่า ตนคิดว่าต้องให้เกียรติ นายพิชัย ในการแบ่งงาน ซึ่งยังมีงานเพิ่มอีกเยอะ เพราะงานบางอย่างไม่ได้ระบุไว้ทั้งหมด มันมีโปรเจกต์อีกเยอะแยะ ซึ่งที่จริงต้องช่วยกัน และตนก็เชื่อว่า รมว.คลัง เหลือขอบเขตการแบ่งงานสำหรับให้รัฐมนตรีช่วย ซึ่ง นายกฤษฎา ก็เป็นอดีตปลัดด้วย ท่านจะสามารถผลักดันนโยบายต่างๆ ได้ดี 

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเคยบอกว่าจะต้องมีการนัดคุยภายในกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะอาจมีรัฐมนตรีบางคนแอบน้อยใจแต่ยังไม่ออกอาการนั้น นายกรัฐมนตรี ตอบว่า อย่างที่ตนเรียน ย่อมมีทั้งคนพอใจและไม่พอใจ มีความสุขและไม่มีความสุข แต่ของพรรค์นี้ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องมีการตัดสินใจออกไปโดยยึดโยงกับเนื้องานเป็นหลัก ซึ่งก็มีการคุยตลอด และวันนี้ก็คุยตลอดตั้งแต่เช้า ตนไม่ได้ไปไหนเลย นั่งทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าจะมีผลกระทบต่อการทำงานรัฐบาลหรือไม่ เพราะหลังปรับ ครม. มีรัฐมนตรีลาออก 2 คนแล้ว นายเศรษฐา กล่าวว่า “ไม่มี ก็ไม่มีปัญหาอะไร ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศก็มีการแต่งตั้งแล้ว นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ก็เป็นอดีตทูต” 

นอกจากนี้ ในประเด็นว่าจำเป็นต้องเคลียร์ใจกับ นายกฤษฎา ที่ดูเหมือนถูกลดลงไปอยู่เป็น รมช.คลัง อันดับ 3 หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ได้โทรหาท่านแล้วเมื่อกี๊นี้ ขอให้รอคำตอบวันที่ 9 พฤษภาคม” เมื่อถามย้ำอีกครั้งว่าถือเป็นการเบรกไว้ก่อนใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “เบรกไว้ก่อน เมื่อกี๊พูดชัดเจน” ส่วนคิดว่าผลการเบรกจะสำเร็จหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวตอบ ก็หวังว่าจะสำเร็จเพราะตนกับ นายกฤษฎา รู้จักกันมานาน เมื่อถามอีกว่าได้คุยกับ นายพิชัย เรื่องการแบ่งงานหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มี อย่างที่บอก ทุกอย่างที่พูดไปได้มีการคุยกันก่อนล่วงหน้าหมดแล้ว มีการแพลนกันล่วงหน้าแล้วว่าทำไมถึงแบ่งอย่างนี้ แล้วทำไมต้องเหลือบางพื้นที่ไว้ เพื่อให้ นายกฤษฎา ได้ทำงานในแง่ของโปรเจกต์หลักที่ยังมีอีกเยอะ 

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามซ้ำว่าที่นายกรัฐมนตรีขอเบรกใบลาออก นายกฤษฎา ว่าอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฤษฎา หัวเราะ ส่วนคำถามว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่ากระทรวงพลังงาน และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มาพบรือยัง นายเศรษฐา กล่าวตอบว่า เปล่า ไม่มี ไม่รู้เรื่อง ไม่ได้มีอะไร เมื่อสักครู่ตนเพิ่งประชุมแก้ปัญหายาเสพติด ประชุมเรื่องโครงการพระราชดำริ และเรื่องของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เพื่อนำค่ายทหารมากักกันผู้ติดยาเสพติด รวมทั้งการหาพื้นที่ให้ราษฎรทำกิน สิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลพี่น้องประชาชนเรื่องน้ำท่วมน้ำแล้ง.